สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ CHALAEM : แฉล้ม จะมาเเนะนำวิธีแก้อาการขับรถเเล้วปวดหลัง ปวดไหล่ให้ทุกคนกันนะคะ เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเจอปัญหาการขับรถนานๆ แล้วเกิดอาการปวดเมื่อย งั้นเราลองมาทำตามวิธีต่อไปนี้ดูค่ะ
จริงๆช่วงเวลาของมนุษย์นักขับ ควรจะเป็นเวลาที่มีความสุขเมื่อได้อยู่บนท้องถนนกับรถยนต์คันโปรด ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางในเมืองหรือถนนเส้นยาวในต่างจังหวัด แต่หลายคนกลับต้องเจอเรื่องน่าหงุดหงิดใจคล้ายๆกันคือ อาการปวดหลัง ปวดไหล่ เมื่อยเเขน เพราะฉะนั้น จงระวังหลังของคุณให้ดี!
อาการปวดหลังระหว่างขับรถ เกิดจากการเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณแผ่นหลังเป็นเวลานานในท่าเดิม แม้บนเก้าอี้ที่ถูกออกแบบมาสําหรับสรีระในการนั่งขับขี่ ส่วนโค้งของหลังส่วนเอวจะโค้งกลับทิศขณะนั่ง กล้ามเนื้อบ่าและไหล่ที่ต้องถูกเกร็งขึ้นเพื่อจับพวงมาลัยตลอดเวลา ประกอบกับการเพ่งมองไปข้างหน้าทําให้สายตาเกิดความเมื่อยล้า ทําให้เกิดความเครียด ส่งผลต่ออาการเกร็งของกล้ามเนื้อ เส้นประสาทต่างๆกับแรงกระทําต่อร่างกาย
จากความเร่งในการเคลื่อนที่ แรงเหวี่ยง หรือแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนน และยังต้องใช้เท้าเหยียบเบรค และคันเร่งที่จะสามารถใช้ในการช่วยทรงตัวเหมือนเวลานั่งเก้าอี้ปกติได้ นั่นยิ่งทําให้กล้ามเนื้อหลังถูกใช้งานมากขึ้น ลองทําตามวิธีแนะนําเบื้องต้นเหล่านี้ เพื่อบรรเทาอาการปวดหลังระหว่างขับรถ ให้ระหว่างทางที่จะไปถึงที่หมายไม่น่าหงุดหงิดใจมากนักค่ะ
วิธีแก้อาการปวดหลัง ปวดไหล่
นั่งให้พอดีกับตัวคนขับในช่วงขา ทั้งระยะใกล้ไกลจากพวงมาลัยให้พอดีกับช่วงแขน
ความสูงต่ำของเบาะ ความเอียงของเบาะพิงหลัง กระจกส่องข้างและกระจกมองหลัง เพื่อให้อยู่ในระยะที่สายตามองเห็นได้โดยไม่ต้องขยับศีรษะหรือโยกตัว
หลังการขับอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 2 ชั่วโมง ควรพักสายตา เดินลงไปยืดเส้นสาย เดินไปมา หรือหากไม่สามารถทำได้ ก็ควรยืดตัว เอนหลังบ่อยๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อได้เคลื่อนไหวบ้าง
เคล็ดลับเหล่านี้อาจช่วยคุณได้ในเบื้องต้น แต่การป้องกันที่ดี คือการออกกําลังกายที่สม่ำเสมอ จะช่วยให้กล้ามเนื้อหลังได้ยืดหยุ่น ผ่อนคลาย เคลื่อนไหวได้อย่างไม่เครียดเกร็ง
ขอขอบคุณที่มา Health-TH