สวัสดีวันศุกร์สุดสัปดาห์ค่ะทุกท่าน ขึ้นชื่อว่าโรคคงไม่มีใครอยากเป็นไม่ว่าจะโรคอะไรก็ตาม แต่ CHALAEM : แฉล้ม คิดว่าโรคร้ายแรงที่สุดที่ไม่อยากเป็นเลยและไม่อยากให้เกิดขึ้นกับคนรักหรือคนในครอบครัวของเรา นั้นคือ โรคมะเร็งค่ะ ไม่ว่าจะมะเร็งอะไรก็แล้วแต่ ถ้ามันมาเล็งเราแล้ว ก็รู้สึกว่าจะเล็งแม่นสะด้วยสิคะ น้อยคนนักที่จะรักษาจนหายขาด เพราะฉะนั้น วันนี้ CHALAEM : แฉล้ม มีผักผลไม้ที่สามารถป้องกันโรคมะเร็งได้มานำเสนอสมาชิกทุกท่านค่ะ
มะเร็งเป็นโรคอันตรายที่ก่อให้เกิดปัญหาแก่วงการสาธารณสุขทั่วโลก สถิติทั่วโลกในปี 2012 พบว่า จากจำนวนประชากร 7 พันกว่าล้านคน พบอัตราการตายจากโรคมะเร็งสูงถึง 8.2 ล้านคนทั่วโลก โดยผู้ชายพบเป็นมะเร็งปอดมากที่สุดและผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมมากที่สุด และมีผู้ป่วยมะเร็งใหม่เพิ่มขึ้น 14.1 ล้านคน ส่วนในประเทศไทยในปีเดียวกัน จากจำนวนประชากรเกือบ 67 ล้านคน พบผู้เสียชีวิตด้วยมะเร็งสูงถึง 63,272 คน โดยพบมะเร็งปอดและมะเร็งเต้านมในเพศชายและเพสหญิงสูงสุดตามลำดับ
สาเหตุของมะเร็งนั้นมาจากอาหารและการดำเนินชีวิตสูงถึง 70% ปัจจัยจากพันธุกรรมเพียง 10% นอกจากนั้นก็มาจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ไวรัส และมลพิษต่างๆ เป็นต้น จากปัจจัยและสาเหตุดังกล่าว การทานอาหารที่ถูกต้องจึงเป็นวิธีการหนึ่งในการป้องกันมะเร็งได้ดีที่สุด ซึ่งความเป็นจริงแล้วอาจช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้อีกหลายโรค เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน และโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น
สารอาหารที่ดีในแต่ละวัน ควรประกอบด้วย สารอาหารหลัก (Macronutrient) สารอาหารรอง (Micronutrient) และเส้นใยอาหาร (Fiber)
สารอาหารหลัก ก็ได้แก่ อาหารพวกคาร์โบไฮเดรท ไขมัน และโปรตีน
สารอาหารรอง ก็ได้แก่ สารต้านอนุมูลอิสระ ไฟโตเคมีคอล และโพโลแซคคาไรด์
เส้นใยอาหาร นั้นมีทั้งชนิดละลายน้ำ และไม่ละลายน้ำ
“การทานพืชผักผลไม้ที่ดีที่สุด ควรทานให้มีความแตกต่างกันให้มากที่สุด โดยให้มีความแตกต่างไม่น้อยกว่า 10 ชนิด ในทุกวัน หรืออย่างน้อยที่สุดให้แตกต่างกันไม่น้อยกว่า 10 ชนิด ในหนึ่งสัปดาห์”
สารต้านอนุมูลอิสระจากพืช ช่วยลดการเป็นโรคหัวใจ ลดคลอเลสเตอรอล ชะลอความแก่ ลดอาการอักเสบ และลดการทำลายเซลล์ สารไฟโตเคมิคอลในพืช ช่วยป้องกันโรคได้มากมาย เสริมความสมบูรณ์และกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ยับยั้งและชะลอความรุนแรงของมะเร็งในทุกระยะ
สารพวกใยอาหารจากพืช ช่วยป้องกันมะเร็งและช่วยพื้นตัวจากมะเร็ง บรรเทาผลข้างเคียงจากเคมีบำบัด ใช้รักษามะเร็งหรือใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ ได้อย่างปลอดภัย มีรายงานพบว่าการทานมังสวิรัติ สามารถลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากมะเร็งลงถึง 39%
สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แคโรทีน พบในพืชที่มีสีต่างๆ ลูเทอีน พบในพืชใบเขียวเช่น ปวยเล้งและคะน้า ไลโคปีน พบในมะเขือเทศ ฟักข้าว แตงโม ฝรั่ง องุ่นแดง วิตามินเอ จากมันเทศ แครอท ฟักข้าว วิตามินซี จากพืชตระกูลส้ม บล็อกโคลี พริกไทยสด วิตามินอี จากมะม่วง ผักใบ เขียวเข้ม น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกคำฝอย เป็นต้น ในเมล็ดองุ่นมีสาร OPG ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก
สารไฟโตเคมิคอล มี 4 กลุ่มใหญ่
1. กลุ่มอินโดล (Indole) พบในดอกกะหล่ำ บล็อกโคลี
2. ไอโซไทโอไซยาเนต (Isothiocyanate) จากดอกกะหล่ำ คะน้า
3. ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) จากหัวหอม พืชตระกูลส้ม ผลเบอร์รี่
4. ไอโซฟลาโวน (Isoflavone) พบมากใน ถั่วเหลือง ซึ่งมีสาระสำคัญคือ เจนิสติน (Genistine) ซึ่งสามารถยับยั้งมะเร็ง นอกจากนี้สารตัวนี้สามารถยับยั้งโรคหัวใจได้ 80% มะเร็งเต้านม 26% สมองขาดเลือด 41% และหัวใจวาย 29%
“ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของร่างกายในการป้องกันมะเร็งและโรคอื่นๆ ควรทานผักและผลไม้ที่มีสีต่างๆ ซึ่งมี 6 สีหลัก ให้มากที่สุด และครบในหนึ่งสัปดาห์”
โดยพืชสีแดง มีสารไลโคปีน และแอนโทไซยานินอยู่สูง
ผักผลไม้สีม่วง มีสารพวก มีสารแอนโทไซยานิน และฟลาโวนอยด์
ผักผลไม้สีน้ำเงิน มีสารพวก ฟีโนลิก และแอนโทไซยานิน
ผักผลไม้สีเขียว มีสารพวก ลูทีน และคลอโรฟิลล์
ผักผลไม้สีเหลือง มีสารพวก ลูทีน และวิตามินซี
ผักผลไม้สีส้ม มีสารพวก คาร์โรทีนอยด์ และฟลาโวนอยด์
อาหารประเภทเส้นใย มีองค์ประกอบหลักดังนี้
เส้นใยที่ละลายน้ำ เช่น อินนูลีน เพคตีน
เส้นใยที่ไม่ละลายน้ำ เช่น เบตากลูแคนส์ เซลลูโลส ลิกนิน
การทานอาหารที่มีเส้นใย จะลดอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยให้อิ่มท้องและลดน้ำหนักตัว ทำให้มีชีวิตที่ยืนยาว หน่วยงานทางอาหารและโภชนาการของสหรัฐอเมริกา แนะนำว่า ควรทานอาหารที่มีเส้นใยอย่างน้อย 20-35 กรัม ในหนึ่งวัน เพื่อสุขภาพที่ดี
นอกจากผักและผลไม้ตามที่แนะนำข้างต้นแล้ว การทานอาหารที่มีเครื่องเทศสูง จะลดการเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง น้ำมันหอมระเหยจากกานพลู จากตะไคร้ สามารถป้องกันและยับยั้งเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี ขมิ้น ไพล และพริก สามารถยับยั้งและฆ่าเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด
สุดท้ายเพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์และห่างไกลจากโรคมะเร็งและโรคต่างๆ ควรรับประทานเห็ดเช่น เห็ดหอม (ชิทาเก, Shitake) เห็ดไมทาเก (Maitake) เป็นต้น ซึ่งเห็ดเหล่านี้สามารถยับยั้งและฆ่าเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด นอกจากนี้ยังเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย และหากไม่เป็นการรบกวนเงินในกระเป๋ามากนัก การทานโสม ซึ่งมีสาระสำคัญหลายชนิด เช่น จินเซนโนไซด์ (Ginsenoside) สามารถป้องกันเซลล์มะเร็งตับ ป้องกันการเกิดมะเร็ง ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย และโสมยังมีสารพวกกากใยอาหารที่สูงด้วย
ขอให้ผู้อ่านทุกคนเลือกทานผักผลไม้ที่ดี มีอายุที่ยืนยาวและห่างไกลจากมะเร็ง
ขอขอบคุณที่มา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล