สวัสดีค่ะสาวๆ ขอให้มีความสุขกับการทำงานวันแรกของสัปดาห์ค่ะ ไม่ว่าเราจะทำงานหนักแค่ไหนแต่ก็อย่าลืมดูแลตัวเองกันด้วยนะ!! วันนี้ CHALAEM : แฉล้ม นำวิธีการดูแลผิวหน้าของสาวๆ โดยใช้วิธีแบบธรรมชาติจากสมุนไพร หรือของใกล้ๆตัวในครัวที่บ้านมาฝากค่ะ
การดูแลผิวหน้าด้วยสมุนไพรของสตรีทั่วโลกพบว่ามีการใช้กันมานานมากกว่า 1 พันปีมาแล้ว และปัจจุบันได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าสมุนไพร ผัก ผลไม้ มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ประเทศไทยเองมีภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรในการดูแลผิวพรรณมาอย่างยาวนาน
สูตรพอกหน้ามีด้วยกันหลากหลายสูตร แต่ละสูตรก็มีคุณสมบัติในการบำรุงและช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าที่แตกต่างกันไป แต่ละสูตรล้วนมาพร้อมคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวหน้าให้เนียนกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ว่าแต่จะมีสูตรใดบ้างนั้น มาติดตามกันเลยค่ะ!!
1. มะเขือเทศสุก
เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังสดชื่น ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ ทำให้หน้าขาวขึ้น น้ำคั้นจากผลมะเขือเทศมีวิตามินหลายชนิด จึงมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นและมีสารกลูโคอัลคาลอยด์ ชื่อโทเมทีน (tomatine) เป็นสารที่ออกฤทธิ์สมานแผล นอกจากนั้น มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ช่วยล้างผิวหน้าให้สะอาดนุ่มนวล ปรับสภาพผิวแห้งกร้าน และคืนสภาพผิวชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี
สูตรพอกหน้า :
1. ฝานมะเขือเทศวางบนใบหน้าสักครู่ จะช่วยทำให้ใบหน้าสะอาด และดูเต่งตึงเปล่งปลั่งขึ้น
2. มะเขือเทศสุกบดละเอียด ผสมน้ำนมสด เป็น beauty mask พอกหน้าทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออก พอกเป็นประจำจะทำให้ผู้ที่มีหน้าดำเป็นจุดๆ ค่อยๆ ขาวขึ้น ช่วยทำให้ผิวหน้าสะอาดขึ้น
2. แตงกวา
เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังสดชื่น เพิ่มความยืดหยุ่น ลดการบวมแดง สมานผิว แตงกวาเป็นสมุนไพรเก่าแก่ชนิดหนึ่งซึ่งสาวทั่วโลกใช้เป็นเครื่องสำอางมาอย่างยาวนาน โดยแตงกวาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีสารกลูซิด (glucids) กรดอะมิโน และเกลือแร่ต่างๆ ไปช่วยทำให้เกิดของสารชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่ผิวหนังขึ้นมาใหม่
แตงกวายังช่วยทำให้ผิวหนังคงความเยาว์วัย มีความยืดหยุ่นจากการที่แตงกวามีสารซิสทิน (cystin) และเมทิโอนิน (methionin) และยังมีสารโพลีแซ็กคาไรด์ ที่ช่วยทำให้ผิวหนังสดชื่น ต้านการเป็นปื้นแดง ซึ่งจะมีประโยชน์ในการใช้ทาหลังจากไปตากแดด
สูตรพอกหน้า :
1. ใช้แตงกวาสดๆ ฝานเป็นชิ้นบางๆ วางให้ทั่วใบหน้าที่ทำความสะอาดแล้ว ทำบ่อยๆ จะทำให้ใบหน้า ดูผุดผ่อง เปล่งปลั่งขึ้น และยังช่วยรักษาฝ้าบนใบหน้า ได้อีกด้วย
2. ใช้น้ำแตงกวามาทาใบหน้าเป็นประจำจะช่วยลดจุดด่างดำ รอยฝ้าที่เกิดจากการผจญแสงแดดและมลพิษระหว่างวัน และช่วยบำรุงผิว
3. ใช้แตงกวาสดใหม่ทั้งผลปั่นละเอียด ผสมน้ำผึ้งพอเหลว นำมาพอกหน้า ทิ้งไว้สักครู่ และล้างออกด้วยน้ำอุ่น เนื้อแตงกวาจะช่วยย่อยโปรตีนชั้นนอกที่หยาบกร้านและเกรียมแดดให้หลุดออกมาได้ และยังช่วยทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นขึ้น ไม่แห้งแตกเป็นขุย
3. แครอท
ทำให้ผิวหนังเรียบลื่น ควบคุมการสร้างไขมันของต่อมไขมัน ทำให้เซลล์แข็งแรง ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ ทำให้หน้าขาวขึ้น เป็นผักที่มีวิตามินและเกลือแร่สูงมาก ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าแครอทเป็นสมุนไพรผู้พิทักษ์ผิวที่ดีที่สุดชนิดหนึ่ง เนื่องจากแครอทมีสารเพกติน กรดอะมิโน ซึ่งเป็นสารอาหารและสร้างฟิล์มบางเพื่อทำให้ผิวเรียบลื่นและสดชื่นทั้งยังมีสาร โปรวิตามินเอ และวิตามินซีซึ่งมีประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระ
สูตรพอกหน้า :
1. แครอตหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ถ้วยผสม น้ำครึ่งถ้วย เพียงสองอย่างหรือเติมน้ำผึ้งแท้ 1/4 ถ้วย (สำหรับคนหน้าแห้ง) หรือไข่ขาว 1 ฟอง (สำหรับคนหน้ามัน) ลงไปปั่นรวมกันให้ละเอียด พอกทิ้งไว้ 15 – 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดทำทุกวันก่อนเข้านอน หน้าจะสดใส เต่งตึงและขาวขึ้น
4. มะนาว
ลดความมันบนใบหน้า เพิ่มความชุ่มชื้น เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ มะนาวเป็นผลไม้เก่าแก่ชนิด หนึ่งในการเป็นเครื่องสำอาง ใช้เพื่อทำให้ผิวนุ่มขึ้น และใช้เพื่อลดความมัน บนใบหน้า ใช้เป็นโทนเนอร์ สำหรับ คนที่หน้ามัน จากการที่มีกรดผลไม้ทำให้มีความชุ่มชื้นขึ้น ช่วยกำจัดเซลล์ ที่ตายแล้ว และมะนาวยังมีฟลาโว-นอยด์ ทำให้มีการไหลเวียนของเลือด ในหลอดเลือดเล็กดีขึ้น ทั้งยังเพิ่มความชุ่มชื้นในชั้นของผิวหนังชั้นนอก มะนาวยังมีวิตามินซีสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ โดยทั่วไปแล้วในบ้านเรานิยมใช้น้ำมะนาวเป็นน้ำกระสายยา ร่วมกับการใช้สมุนไพรบำรุงผิวอื่นๆ สำหรับคนผิวมัน
สูตรพอกหน้า :
1. ใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนชา น้ำส้มคั้น 1 ช้อนชา โยเกิร์ต 30 มิลลิลิตร ผสมในอัตราส่วนที่เท่าๆ กันแล้วทาให้ทั่วหน้า ทิ้งไว้ 10 – 15 นาทีแล้วล้างออก จะทำให้สดใส ลบรอยกระ จุดด่างดำ
2. ใช้น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ไข่ขาว 1 ฟอง ดินสอพอง 1 – 5 เม็ดนำมาผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน พอกหน้าทิ้งไว้ 15 – 20 นาที เหมาะสำหรับคนที่หน้ามันเพื่อลดความมันบนใบหน้า
3. ใช้น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา ไข่แดง 1 ฟอง ผิวส้มบด 1/2 ช้อนชา พอกหน้าไว้สัก 10 – 15 นาที สำหรับคนที่ผิวซีดเซียวจะทำให้ผิวเปล่งปลั่งสดใสขึ้น
5. หอมแดง
หอมแดง มีสารสำคัญที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ช่วยฆ่าเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดสิว และลดการอักเสบของสิวได้
สูตรพอกหน้า :
นำหอมแดงฝานให้เป็นแผ่น อาจจะทุบเบาๆ เพื่อให้น้ำมันของหอมแดงออกมา แล้วเอามาทาบริเวณสิวอักเสบ หรืออีกวิธีคือนำหอมแดงมาสับหรือปั่น ผสมน้ำสะอาดลงไปนิดหน่อย แล้วนำทั้งน้ำทั้งเนื้อหอมแดงมาพอกหน้าไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้สามารถทำได้ทุกวัน ช่วยทำให้สิวอักเสบยุบตัวลง ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ลดการเกิดสิวใหม่
6. ฝรั่ง
เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้เซลล์แข็งแรง ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ สมานผิว ฝรั่งเป็นผลไม้ที่สตรีในหมู่เกาะมหาสมุทรแปซิฟิกนิยมใช้เป็นเครื่องสำอางทาผิวหน้า ฝรั่งมีโพแทสเซียม น้ำตาล และกรดอะมิโนที่สามารถดึงน้ำให้อยู่ชั้นบนของผิวหนัง จึงทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นขึ้น นอกจากนี้ ฝรั่งยังมีวิตามินสูงที่สำคัญคือวิตามินบี 2 ซึ่งถือว่าเป็นวิตามินเพิ่มพลัง ซึ่งจำเป็นในการซ่อมแซมและการเจริญเติบโตของเซลล์
สูตรพอกหน้า :
เนื้อฝรั่งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ถ้วย น้ำ 1/2 ถ้วย น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วยปั่นจนเป็นเนื้อครีม นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 10 – 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดทำทุกวันก่อนเข้านอน หน้าจะสดใส เกลี้ยงเกลาและนวลเนียนขึ้น
7. สับปะรด
กำจัดเซลล์ที่ตายแล้ว (keratolysis) ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าต่อความงามของผิวพรรณจากการที่สับปะรดมีเอนไซม์ papain ช่วยย่อยเซลล์ที่ตายแล้ว ของชั้นผิวหนังให้หลุดออกมา มีประโยชน์ ต่อผู้ที่มีสิวหัวดำอุดตันที่ใบหน้า ทำให้ผิวพรรณสดใสขึ้น สับปะรดยังมีสรรพคุณในการช่วยลดการอักเสบและยังมีวิตามินเอ วิตามินซี ช่วยต้านอนุมูลอิสระและมีเกลือแร่อีกหลายชนิดช่วยทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น
สูตรพอกหน้า :
1. น้ำสับปะรด 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด 3 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน ล้างหน้าให้สะอาด พอกให้ทั่วบริเวณใบหน้า ยกเว้นปากและดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาทีแล้วออก
2. ใช้น้ำที่คั้นได้จากผลสับปะรด นำมาชโลมผิวหน้า ทิ้งไว้พอแห้งแล้วล้างออก จะทำให้หน้าเนียนนุ่ม เนื่องจากสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวชั้นนอกสุดถูกย่อยและขจัดออกไป
8. มะม่วง
เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้เรียบ ลื่น ทำให้ผิวหนังสดชื่น ป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ มะม่วงมีวิตามินซีและ reducing glucid สูง จึงช่วยทำให้ผิวหนังสดชื่น ลบรอยเหี่ยวย่นและต้านอนุมูลอิสระ ในมะม่วงยังมีสารที่เป็นน้ำตาลร่วมกับกรดอะมิโน จึงช่วยทำให้เกิดความเรียบลื่น ชุ่มชื้นบนชั้นของหนังกำพร้า วิตามินเอ วิตามินซี และเกลือแร่ที่มีอยู่ในมะม่วงยังช่วยให้กลไกการสร้างเซลล์ใหม่เป็นไปได้ดียิ่งขึ้น
สูตรพอกหน้า :
ใช้สำหรับคนเป็นฝ้า นำเนื้อมะม่วงสุกมายีหรือ ปั่น แล้วนำไปพอกให้ทั่วหน้า ทิ้งไว้จนรู้สึกว่าแห้งจึงล้างออก จะทำให้หน้าขาวและนุ่มนวลขึ้น มะม่วงสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว
ขอขอบคุณที่มา : มูลนิธิหมอชาวบ้าน